บทบาทของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

1. เทรนด์หลักที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ (CASE)

ดร. เกรียงศักดิ์ ได้อธิบายถึง 4 เทรนด์สำคัญที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมี AI เป็นส่วนสำคัญ ได้แก่:

• C - Connected (การเชื่อมต่อ): รถยนต์ในปัจจุบันสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ รอบตัว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการเดินทาง
• A - Autonomous (การขับขี่อัตโนมัติ): AI ถูกนำมาใช้ในระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) เพื่อช่วยในการเตือนและควบคุมรถเมื่อมีสิ่งกีดขวางหรือเมื่อขับออกนอกเลน
• S - Shared Mobility (การแบ่งปันการเดินทาง): ในอนาคต ผู้คนอาจหันมาใช้บริการยานยนต์ร่วมกันมากขึ้น แทนที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์เอง
• E - Electrification (การใช้พลังงานไฟฟ้า): รถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงรถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรม

2. บทบาทของ AI ในการผลิตและการพัฒนา

AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตัวรถยนต์ แต่ยังเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตทั้งระบบ ทำให้:

• การออกแบบรวดเร็วขึ้น: จากเดิมที่ใช้เวลา 4-5 ปี ลดลงเหลือเพียง 2 ปี หรือน้อยกว่า
• เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: การใช้หุ่นยนต์และเซนเซอร์ช่วยลดจำนวนพนักงานและทำให้สายการผลิตมีความยืดหยุ่นสูงขึ้น
• ลดต้นทุน: การประยุกต์ใช้ AI ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น

3. สถานการณ์ในประเทศไทย ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ Future Mobility แต่ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา:

• ระดับการใช้เทคโนโลยี: รถยนต์ในไทยส่วนใหญ่ใช้ระบบ ADAS ระดับ 1-2 เท่านั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมบนถนนและพฤติกรรมการขับขี่ที่แตกต่างจากต่างประเทศ
• การปรับตัวของระบบ: ระบบ AI ที่พัฒนาในต่างประเทศจะต้องได้รับการปรับให้เข้ากับสภาพการจราจรและป้ายจราจรในประเทศไทย เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
• การสนับสนุนจากภาครัฐ: รัฐบาลได้เริ่มส่งเสริมการติดตั้งระบบ ADAS ผ่านนโยบายและมาตรการจูงใจทางภาษี รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมในอนาคต

4. ความท้าทายและความเสี่ยง

แม้ AI จะมีประโยชน์ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องจัดการ:

• ความปลอดภัยของซอฟต์แวร์: ระบบ AI ในรถยนต์อาจถูกแฮ็กหรือทำงานผิดพลาด ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้
• ความรับผิดชอบ: ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ หากเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถยนต์อัตโนมัติ

5. การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค

• Vehicle as a Service (VaaS): ผู้คนอาจหันมาใช้บริการยานยนต์แบบเช่าแทนการเป็นเจ้าของ ทำให้ธุรกิจการเช่ารถยนต์เติบโตขึ้น
• Software Defined Vehicle (SDV): รถยนต์ในอนาคตจะถูกกำหนดด้วยซอฟต์แวร์มากขึ้น ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับฟังก์ชันและระบบอัจฉริยะมากกว่าตัวรถ ทำให้มีการแข่งขันกันที่ระบบความปลอดภัยและความบันเทิงในรถยนต์