ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก ความต้องการแบตเตอรี่ EV เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่เมื่อแบตเตอรี่เหล่านี้หมดอายุการใช้งาน การรีไซเคิลได้กลายเป็นโอกาสทองในโลกธุรกิจ ที่ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับเศรษฐกิจ

ทำไมธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ถึงน่าสนใจ?

1. รองรับการเติบโตของ EV  ความต้องการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าภายในปี 2030 (ตามแผน Net Zero Emissions ของ IEA) เพื่อรองรับตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังขยายตัว
2. มูลค่าตลาดมหาศาล รายงานจาก McKinsey & Company คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรีไซเคิลแบตเตอรี่ทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 3.3 ล้านล้านบาทภายในปี 2040 และการรีไซเคิลแบตเตอรี่หนึ่งตันอาจสร้างมูลค่าได้ถึง 20,000 บาทภายในปี 2025
3. เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น กระบวนการ Froth Flotation ที่ช่วยแยกกราไฟท์ออกจากวัสดุอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในแบตเตอรี่ EV
4. แรงผลักดันจากกฎระเบียบ สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ต่างมีนโยบายสนับสนุนการรีไซเคิล เช่น การกำหนดเป้าหมายการรีไซเคิลขั้นต่ำ และการให้เครดิตภาษีสำหรับวัสดุรีไซเคิล
5. ส่งเสริมความยั่งยืน วัสดุรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับสินแร่ใหม่

เทคโนโลยีรีไซเคิลแบตเตอรี่: เปลี่ยนขยะให้มีมูลค่า

อุตสาหกรรมรีไซเคิลแบตเตอรี่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น:

• Hydrometallurgical Processing: การแยกวัสดุด้วยสารเคมีที่แม่นยำ
• Pyrometallurgical Processing: การหลอมด้วยความร้อนเพื่อกู้คืนวัสดุ เช่น นิกเกิลและโคบอลต์
• Direct Recycling: นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มอัตราการกู้คืนวัตถุดิบ

Direct Recycling โดดเด่นอย่างไร?
✅ ลดการใช้พลังงาน
✅ ลดการปล่อยคาร์บอน
✅ เพิ่มอัตราการกู้คืนวัสดุสำคัญ เช่น ลิเทียม
✅ ลดต้นทุนและเพิ่มความคุ้มค่า

โอกาสของประเทศไทยในอุตสาหกรรมรีไซเคิล

บีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุน เช่น การส่งเสริมกิจการซ่อมและรีแพคแบตเตอรี่หมดอายุ พร้อมผลักดันระบบบริหารจัดการแบบครบวงจร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรม

การรีไซเคิลแบตเตอรี่ไม่เพียงช่วยลดขยะ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่สามารถสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับธุรกิจไทย พร้อมปูทางให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในภูมิภาค เพราะขยะในวันนี้ อาจกลายเป็นกำไรในอนาคตที่ไม่มีที่สิ้นสุด! 

https://www.facebook.com/boithailandnews/posts/pfbid027vrET6iz9nmizyLZbfBbdBSVUeSJooatGvsGgmKKfctC6vJyY8GBbfwpvTwJ2Qrvl